- คลิกบรรทัดใน พื้นที่ทำงาน
- กดที่เครื่องหมาย ▶ เพื่อให้โปรแกรมทำงาน
หรือ กด shift + enter พร้อมกัน เพื่อให้โปรแกรมทำงาน
ตัวแปร เป็นการใช้เก็บค่าในหน่วยความจำ ตัวแปรจะมีชื่อ (identifier) สำหรับใช้ในการอ้างถึงข้อมูลของมัน ในการเขียนโปรแกรม ค่าของตัวแปรสามารถที่จะกำหนดได้ใน run-time หรือเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาในขณะที่โปรแกรมทำงาน (executing) ตัวอย่างเช่น
- ขึ้นต้นด้วยภาษาอังกฤษ (A-Z) หรือจะเป็น (a-z) อาจจะตามด้วยตัวเลขก็ได้
- สามารถใช้ภาษาไทย แต่ไม่นิยม
- ต้องไม่มีสัญลักษณ์ จุด (.) หรือช่องว่าง ยกเว้น (_) หรือ Underscore
แบบที่ผิด
แบบที่ถูก
- ภาษาอังกฤษพิมพ์ใหญ่กับเล็กมีความหมายต่างกัน
- ไม่ซ้ำกับคำสงวน เช่น False, None, True, __peg_parser__, and, as, assert, async, await, break, class, continue, def, del, elif, else, except, finally, for, from, global, if, import, in, is, lambda, nonlocal, not, or, pass, raise, return, try, while, with, yield
เรียกตัวแปรประเภท string มีเครื่องหมายสำคัญที่จะระบุความเป็นข้อความก็คือ
"_" Double quote
'_' Single quote
เช่น
คือข้อมูลที่เป็นตัวเลขที่ไม่มีจุดทศนิยม
จำนวนจริงในที่นี้เป็นจำนวนที่อยู่ในรูปทศนิยมแบบจุดลอย (floating point) หรือมักเรียกว่า float
คือข้อมูลที่ประกอบด้วยส่วนจริงและส่วนจินตภาพ โดยส่วนจินตภาพจะเขียนโดยต่อท้ายด้วย j
ต่อให้ตัวเลขนำหน้า j เป็น 0 ซึ่งหมายถึงส่วนจินตภาพเป็น 0 แต่ถ้ามีการเขียน 0j อยู่ก็ยังถือเป็นจำนวนเชิงซ้อน จำนวนเชิงซ้อนเป็นอะไรที่เป็นนามธรรมเป็นอย่างมาก และมักใช้ในคณิตศาสตร์ระดับสูง
ข้อมูลประเภทบูลคือข้อมูลที่มีค่าเป็นเพียง ๒ แบบ คือจริงกับเท็จเท่านั้น ซึ่งเขียนแทนด้วย True False
* โดยให้ระวังว่าจำเป็นต้องขึ้นต้นด้วยตัวพิมพ์ใหญ่เท่านั้น
คือข้อมูลที่รวมเข้าเป็นรายการเดียวโดยมี [ ] เครื่องหมายบัคเก็ตหรือวงเล็บก้ามปูเป็นตัวกำหนด เช่น box = ['ส้ม', 'ชะอม']
คือข้อมูลที่รวมเข้าเป็นรายการคล้ายลิสต์แต่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ โดยมี ( ) เครื่องหมาย พะเรนทิซิส หรือวงเล็บเป็นตัวกำหนด เช่น number = (50,50)
คือข้อมูลที่รวมข้อมูลเข้าด้วยกันแต่แบ่งเป็น key(คีย์) value(แวลู่)หรือข้อมูล โดยใช้เครื่องหมาย { } เครื่องหมายบัคเก็ตหรือวงเล็บปีกกาเป็นตัวกำหนด เช่น dict = {1:"สมชาย",2:"สมสมัย"}
1 คือ key ส่วน สมชาย คือ value
คือข้อมูลที่รวมข้อมูลเข้าด้วยกันเหมือนลิสต์แต่ใช้ในทางคณิตศาตร์มากกว่า โดยใช้เครื่องหมาย { } เครื่องหมายบัคเก็ตหรือวงเล็บปีกกาเป็นตัวกำหนด เช่น S1 = {1,2,3,4,5,6,7}