เที่ยวเดินป่า | เปรโต๊ะลอซู จังหวัดตาก
ต้องบอกเลยว่านี่เป็นการเดินป่าครั้งแรกในชีวิตที่มีการนอนในป่ากับธรรมชาติ blog นี้ผมอยากเขียนเพื่อเก็บความรู้สึกทั้งหมดและสิ่งที่ได้พบเจอในการเดินทางครั้งนี้ไว้เป็นความทรงจำ สิ่งที่จะเขียนจากนี้จุดประสงค์เพื่อให้ตัวเองในอนาคตกลับมาอ่านแล้วได้นึกถึงความทรงจำตอนนี้ได้ หลายคนบอกทำไมไม่ทำ vlog หล่ะ เอาจริงๆนะ ผมเหนื่อย ห้าๆๆ เลยไม่ได้ถ่ายวิดีโอเกี่ยวกับความรู้สึกไว้เลย เลยมาเขียนบทความดีกว่า เพราะต่อให้อัดวิดีโอก็ไม่แน่ใจว่าจะสื่อสารออกความรู้สึกออกไปได้หมดมั้ยนะ blog นี้เป็นความเห็นส่วนตัวและยึดผมเป็นหลักนะครับ อาจจะมีการยืมรูปภาพมาจากคนอื่นๆ แต่ส่วนใหญ่ก็จะเป็นรูปที่มีผม (แนะนำนี่มัน Blog ส่วนตัวนะโว้ยย ห้าๆๆๆ) เชิญอ่านต่อได้เลยครับ
การเตรียมตัว
ต้องบอกเลยว่าต้องเตรียมอุปกรณ์เยอะมากเพราะไม่เคยซื้อมาก่อน แต่จะลิสต์สิ่งที่จำเป็นหลักๆคือ
- — เต็นท์แบบเบานอน 2 คน (จำเป็น)
- — ไม้เดินป่า (Trekking Poles) (จำเป็น)
- — ผ้าขนหนูแห้งไว (จำเป็น)
- — ถุงนอนน้ำหนักเบา (จำเป็น)
- — เบาะลมสำหรับใช้นอนในเต็นท์
- — ไฟฉายถือ (จำเป็น)
- — ไฟฉายคาดหัว (จำเป็น)
- — ไฟห้อยในเต้น (จำเป็น)
- — ถุงกันน้ำ (จำเป็น)
- — หมวกกันแดด
- — รองเท้าแตะ
- — ถุงน้ำใส่ในกระเป๋า
- — ถุงดำสำหรับใส่ผ่าเปียก
- — ผงถ่านสำหร ับแก้ปวดท้อง
- — ยาหยุดปวดท้อง
- — ขนมสำหรับเพิ่มพลังงาน
- — เงินสด
- — ชามพลาสติก
- — ช้อน/ส้อม
- — รองเท้าสำหรับเดินป่า
- — กระเป๋าเดินป่า
- — รองเท้าสตั๊ดดอยใส่ลุยโคลน 1 คู่
- — ถุงเท้ากันน้ำเข้า 1 คู่
- — ถุงเท้าแห้งไว 3 คู่
- — เสื้อแจ็คเก็ตกันหนาว 1 ตัว
- — เสื้อยืดระบายอากาศ 3 ตัว
- — เสื้อกันลม 2 ตัว
- — เสื้อยืดใส่เดินป่า 2 ตัว
- — กางเกงเดินป่า 2 ตัว
- — เก้าอี้น้อยๆ
- — power bank
- — เครื่องเป่าลม
- — เสื้อกันฝนแบบค้างคาว
นำของทั้งหมดใส่กระเป๋าเดินป่าแล้วน้ำหนักรวมๆ 10 Kg ยังไม่รวมเต็นท์ ถือว่าหนักเอาเรื่องอยู่ จะซื้อตามมั้ยแล้วแต่คุณเลย เพราะอยู่ที่ความชอบส่วนตัวเลย ถามว่าร่างกายต้องเตรียมอะไรมั้ย ผมก็ไม่ได้เตรียมอะไรเลยแค่ไม่ป่วยพอล่ะ มีออกกำลังกายเล็กๆน้อยๆ
วันเดิน ทาง
ผมได้ทำการเดินทางโดยการซื้อทริปประมาณ 3,xxx++ บาท (มั้งจำไม่ได้ 😂) เพราะงั้น เลยจะต้องออกไปเดินทางเพื่อไปรอที่ท่ารถ
(ภาพจาก ช่อง WonderBegin
)
เราได้ทำการนั่งรถขนส่งเพื่อเดินทางไปยัง อำเภอวังน้อย เป็นอำเภอหนึ่งในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา แต่ความฮาก็บังเกิดขึ้น เมื่อคนขับรถตู้ดันเลยจุดลงท่ารถที่วังน้อยซะงั้น 😂 ทำเอาต้องพากันเดินย้อนกลับไป เหงื่อออกไปตามๆกัน
(ดูได้จากคลิปนี้ จากช่อง WonderBegin)
หลังจากถึงท่ารถที่วังน้อย เราก็ได้พากันพักเหนื่อยและหาอะไรทานระหว่างรอรถตู้ของทริปมารับ เมื่อรถมาถึงแล้ว เราก็นั่งรถยาวๆยันถึงที่หมายที่ร้านบ้านครูซัน อำเภออุ้มผาง จังหวัดตาก
( ภาพจาก Google Map )
ร้านบ้านครูซัน
เมื่อถึงร้านบ้านครูซัน จะเป็นร้านข้าวแกงที่มีคาเฟ่และห้องน้ำไว้อาบน้ำหรือทำธุระส่วนตัว เพื่อเตรียมก่อนจะออกเดินทางไปยังจุดทางเข้าน้ำตกห่างประมาณ 70 กม
(ภาพจาก ช่อง WonderBegin
)
หลังจากทานอาหารมื้อเช้าเรียบร้อย ก็จะเดินทางต่อไปยังจุดทางเข้าน้ำตกเปรโต๊ะลอซู ระหว่างนี้จะไม่มีห้องน้ำใครปวดหนักให้บอกคนขับรถเลยครับ หรือไม่ก็รอไปถ ึงจุดลงจอดอีก 70 กม เลยจะมีห้องน้ำส้วมหลุดอยู่
วันที่ 1
โดยรถตู้จะจอดให้ลงที่จุดเดินทางเท้าเพื่อเดินเข้าไปยัง Base Camp หรือจุดตั้งแคมป์ของเราให้ตลอด 2 คืน 3 วัน สิ่งที่คุณต้องรู้คือที่นี่ไม่มีสัญญาโทรศัพท์เพราะฉะนั้นคุณจะถูกตัดขาดจากโลกภายนอกโดยสิ้นเชิง ทีมงานก็จะแจกแจงเรื่องต่ายๆ ใครเช่าอะไรบลาๆ รวมถึงลูกหาบ (เทคนนิคในกรณีเหมาลูกหาบหากมีน้ำดื่มจะให้ลูกหาบแบกขึ้นไปแนะนำให้แบกไปเองแล้วเอาของที่น้ำหนักเท่าๆน้ำดื่มให้ลูกหาบไป เพราะไม่งั้นจะมีปัญหาขาลง เพราะน้ำหนักน้ำดื่มหาย ความสมเหตุสมผลของเราคือก็แค่เอาของน้ำหนักเท่าๆกันไปแทนที่ก็จบ แต่ลูกหาบไม่คิดอย่างนั้ น เขาจะคิดเงินเราเพิ่ม หรือถ้าใครเรื่องอะไรจะยอมก็แนะนำให้เอาเครื่องชั่งแบบแขวนติดตัวไปด้วย แต่ทางเราไม่อยากเถียงเลยตัดจบ อิอิ) จากนั้นก็ถ่ายรูปหมู่แล้วเตรียมตัวเดินทางกัน
( ตำแหน่งจุดสำคัญหลักๆ ภาพจาก Google map)
( เตรียมตัวออกเดินทางได้ 321 )
โดยตลอดเส้นทางในการเดินคุณจะเจอดินโคลน และน้ำในลำคลองตลอดทั้งทาง แต่ก็ยังมีทางเลาะไปข้างๆเหมือนกัน สำหรับใครจะทำ content ก็สามารถไปเดินเส้นทางโคลนได้ไม่ว่ากันเพิ่มสีสัน แต่สำคัญใครไม่อยากเลอะโคลนมาก็จะมีทางเลี่ยง แต่ไม่ใช่ว่าจะดีเท่าไหร่หรอกนะ 😅
( ภาพจาก @tpjtrnk)
( ภาพจาก @tpjtrnk)
ในระหว่างทางก็จะมีร้านค้าของชาวบ้านเปิดให้บริการประมาณ 4 - 5 ร้าน รับทั้งเงินสดและโอน กรณีเงินโอนต้องดูด้วยว่าแถวนั้นมีสัญญาหรือไม่ (แนะนำเงินสดดีที่สุด)
( ภาพจาก ช่อง WonderBegin
)
หลังจากลุยน้ำ ลุยโคลน ลุยแดดมาแล้ว เดินไปเรื่อยๆคุณจะได้พบกับทางเข้าชุมชน โดนตรงจุดนี้หากคุณมากับทริปจะไม่ต้องเสียค่าทางเข้าเพราะทางทีมงานจะแจกตั๋วเข้าตั้งแต่จุดลงรถแล้ว เพราะงั้นเก็บไว้ให้ดีอย่าให้หายหล่ะ
หลังจากเข้ามาแล้วคราวนี้แหละของแท๊คักปู่เอ้ย หลังจากเราเดินทางถึงร้านค้าก่อนถึงเนินยาว (ร้านป้าไก่มั้ง ผมก็จำไม่ได้ เพราะมัวแต่เหนื่อยอยู่ ห้าๆๆๆๆๆๆ)
( ร้านค้าสุดท้าย ก่อนถึง Base Camp )
( ภาพจาก ช่อง WonderBegin
)
( เนินก่อนเข้าไป Base Camp )
( ภาพจาก @tpjtrnk )
หลังจากนี้จะเป็นทางขึ้นเขาชันระดับนึงเลย ที่ผ่านมาแค่พอได้ร้อนและหอบ แต่หลังจากนี้เหนื่อย x2 เลยก็ได้ว่าเพราะเป็นทางขึ้นเขาชันตรงดิ่งเลย (ผมนี่เกือบตุย ห้าๆๆๆ ไม่ได้ออกกำลังแบบนี้นานมากๆ พักได้คือพักเลย) พี่ทีมง านก็บอกอีกนิดเดียว นิดเดียวที่ขเาว่าไม่เคยถึงสักทีให้ตายสิ ชั้นจะบ้า 😮💨
( ภาพจาก ช่อง ใจฟูสัญจร
)
( ภาพจาก ช่อง ใจฟูสัญจร
)
( ภาพจาก ช่อง ใจฟูสัญจร
)
หลังจากถึงแล้วก็หาที่กางเต็นท์โดยการเดินทางครั้งนี้พวกเรานำเต็นท์มากันเอง แวะหาซื้ออะไรทาน ลืมบอกไปว่าตรง Base Camp มีร้านค้าขายด้วย แต่ราคาก็ขึ้นมา x1.5 จากราคาปกติแล้วแต่ของ (แต่ยอมจ่ายเถอะราคาไม่ได้แพงถึงขั้นซื้อไม่ได้) ยกตัวอย่าง น้ำอัดลมจาก 13 บาทเป็น 20 บาท ยิ่งเป็นของอาหารอย่างไก่ย่าง ถ้าในปกติอาจจะไม้ละ 5-10 บาท ที่นั่นก็จะ 20 บาท แถมยังมีข้าวไข่เจียวขายด้วย แต่ไม่ได้ซื้อกินไปถามมาราคาประมาณ 40-50 จำไม่ได้ค่อยได้
( ภาพจาก @tpjtrnk )
หลังจากนั้นก็พักผ่อนกันตามอัธยาศัย หาอาบน้ำ โดยจะมีห้องน้ำกับมีน้ำตก สามารถเลือกได้เลยอยากอาบที่ไหน แต่ว่าโซน บนน้ำตก ชาวบ้านห้ามผู้หญิงลงเล่น (คุณถามว่าทำไม ผมก็ไม่รู้เหมือนกันฟังมาจากทีมงานคนนึง) ระหว่างนั้นก็พากันเล่นเกม where wolfs เล่นเป็นบ้างไม่เป็นบ้างสนุกสนานกัน รอทางทีมงานก็ทำอาหารเย็น ก็ไปทานมื้อเย็นแล้วก็แยกย้ายทานยาก่อนนอนกัน บลาๆ พอตกดึกประมาณตีสอง ตื่นเพราะปวด __ เลยหยิบไฟฉาย พอออกมาบรรยากาศดีมากมีหมอกลงเย็นสบายมาก
วันที่ 2
ตื่นเช้ามาก็พากันไปทำธุระส่วนตัวแล้วต้มน้ำหาอะไรร้อนๆกัน ทางทีมงานก็เตรียมอาหารเช้าเป็นข้าวต้มให้
( ภาพจาก @tpjtrnk )
( ภาพจาก @tpjtrnk )
จากนั้นเวลา 07.00 น เรียกรวมพลเพื่อเตรียมจะขึ้นไปยังยอดสามหมื่น กับน้ำตกปิตุ๊โกร ตรงจุดนี้ทีมงานจะไม่บังคับใครไหวแค่ไหนก็พอแค่นั้นได้ หรืออยู่ Base Camp ก็ได้ (อันนี้แอบน่าสนใจมาก 😂 ไม่ได้ไม่ไหวก็ต้องบอกไหวไว้ก่อน) จากนั้นทีมงานก็จะแจกเชือกสีแดงเพื่อเป็นสัญญาลักษณ์ว่ามาจากทริปนี้นะ ไปไหนก็ต้องไปเป็นคู่ บลาๆ
( ภาพจาก ช่อง WonderBegin
)
และแล้ววินาทีแห่งความยากลำบากก็ได้เริ่มขึ้น เริ่มต้นด้วยการเดินทางขึ้นเขาที่ชันแบบดันยาว ยาวแบบไม่มีอะไรกั้น ไอผมก็ฟิตก็เดินพยายามฝืนทำเท่ห์ สุดท้ายหอบสิครับ แรกๆก็เกาะกลุ่มกับเพื่อนๆ สักพักคนในกลุ่มขึ้นโน่นนนนน ก็เลยพักและให้เขาแซงไปก่อน วินาทีนั้นก็ทำให้รู้เลยว่า นี่สินะของจริงเมื่อวานนี้ของเด็กเล่นเลย 😂 ป่าแรกในรอบ 12 ปี เล่นกันซะแล้ว
( ภาพจาก ช่อง WonderBegin
)
หลังจากกลุ่มของผมก็แบ่งออกเป็น 3 กลุ่มย่อย แนวหน้า 3 คน
กับ แนวหลัง 3 คน
และผมอยู่ตรงกลางคนเดียว (เศร้าหว่ะ 😂) ทำไมผมอยู่คนเดียวหน่ะหรอ หลังจากเขาแซงไปกันแล้ว ผมก็พยายามเ ดินรอกลุ่มแนวหลัง รออยู่นาน แต่ระหว่างนั้นก็เจอกับเพื่อนร่วมทริปที่มาด้วยกันเข้า ในใจผมคิดว่าไม่ทันคนในกลุ่มที่มาด้วยกันก็ไม่เป็นไรวะ อย่างน้อยเกาะคนในทริปด้วยกันก็ยังดี จากนี้ก็จะเป็นเรื่องราวที่ผมเจอคนเดียวแล้วนะครับ อาจจะดูเล่าเรื่องเกี่ยวกับตัวเองไปมาก (แต่มันก็ blog ส่วนตัวนี่หน่าไม่น่าจะเป็นผิดอะไร ถือว่าเป็นการแลกเปลี่ยนประสบการณ์แล้วกันนะครับ) ทุกอย่างจากนี้ล้วนเป็นความคิดเห็นส่วนตัวถ้าขัดกับหลักการหรือความคิดของใครต้องขออภัยมานะที่นี้ด้วยนะครับ
( พี่ชายคนนี้มาจากสมุทรสงครามมั้ง ห้าๆๆ something like that คอยเชียร์ให้เกาะไปกลุ่มเขาเรื่อยๆ )
( กลุ่มของพี่ชายคนนั้นที่มาจากสมุทรสงครามมั้ง )
ผมก็ได้เดินตามกลุ่มเขาไปเรื่อยๆ แต่จุดที่ต้องแยกทางกันคือตรงทางแยกไปน้ำตกรูปหัวใจ กับทางขึ้นไปดอยหมื่นสอง ถึงตรงนั้นเหนื่อยๆมาก น้ำก็เริ่มหร่อยหรอ เลยพักให้หายเหนื่อยดีกว่าฝืนไปต่อก่อน จากนั้นพวกกลุ่มพี่ชายก็นำไปกันก่อน ผมนั่งรอพักหายเหนื่อยสักพัก ก็เจอกับพี่ลูกหาบเสื้อแดงของทริปที่ซื้อมาเลยไปขอน้ำเขา เพื่อเตรียมตัว แล้วพี่แกก็ลงไปเติมน้ำพร้อมกับน้องลูกหาบของอีกทริป จนแกขึ้นมาก็เล่าให้ฟังว่า ผมหน่ะเกือบตกหน้าผาแล้วลงไปเอาน้ำเมื่อกี้ เราฟังก็ไม่รู้จะตอบยังไง จะให้กำลังใจก็จะอะไรอยู่ แต่ที่รู้ๆคือเราไม่ควรลงไปตักเองแน่ๆ จากนั้นแกก็นั่งพัก แล้วบังเอิญอีกทริปนึง เขาก็ขึ้นมาพอดีน้องก็ถามว่าเอาน้ำมั้ย ทั้งทีไม่ถามด้วยซ้ำว่าเราใช่ลูกค้าเขามั้ย เราก็เกรงใจเลยบอกไปว่า เอาครับ 😂 แหมจังหว่ะนั้นพกไว้เยอะๆก่อน แหละ จากนั้นก็เดินไปกับเขา เท่ากับตอนนี้ผมมีกลุ่มเดินแล้วรวมเป็น 5 คน เดินก็กะเนียนๆไป ถ้าเราไม่ไหวก็ว่าจะให้เขาไปก่อน แต่บังเอิญ กลุ่มนี้ก็พักทุกๆ 50 เมตร ไม่ต่างจากเรา ชอบเลย โดยจะมีพี่เบิร์ดอายุ 32 ชาวสุรินทร์ ซึ่งเขาเป็นทีมงานของอีกทริปสมมุติว่าคือทริป A แล้วก็น้องอีก 3 คนมารู้ชื่อทีหลังคือ น้องแอม อายุ 23 มั้ง , น้องบีม 26 มั้ง ทั้งสองคนคือลูกทริปของทริป B และน้องชม ไม่รู้อายุ แต่น้องอีกคนเรียกน้องเลยคิดว่าเป็นน้องแหละ เป็นคนพื้นที่ ลูกหาบของทริป B และผมเป็นลูกทริปของทริป C 😂 ทั้งสามทริปมารวมตัวกันโดยไม่ได้นัดหมาย
( ภาพพี่เบิร์ดคนมุมขวา )
พวกเราก็พากันเดินทางขึ้นไปเรื่อยๆ โดยพี่เบิร์ดแกเป็นสายเฮฮา หาเรื่องให้ทุกคนสนุกได้ตลอดทั้งทาง บางทีก็ตะโดนท้าทายว่า ไอ้ข้างบนลงมาต่อยกับกูเปล่า มึงเดินลงมานะ อะไรแบบนี้ ห้าๆ แล้วก็ค่อยแซวน้องบีมตลอดทั้งทาง แล้วก็พากันบ่นตลอดทาง และทุกๆ 50 เมตรแน่นอน นั่งพักสิครับรอไร ห้าๆ น้องชมลูกหาบของอีกทริปผู้ใจ้ดีก็หามะไฟมาให้น้องบีมกินได้ตลอดทั้งทาง ผมเองก็กินกับเขาด้วยเหมือนกัน แน่นอนว่าเปลือกมะไฟตามทางก็น่าจะมาจากกลุ่มนี้ แฮ๊ะๆ
( คลิประหว่างนั่งพักพี่เบิร์ดคุยกับน้องบีม )
( เดินไปพักไปจนถึงหมื่นสองจนได้ )
กว่าจะถึงยอดหมื่นสองก็ฝาฝันอุปสรรค์ ทั้งหินใหญ่ที่ต้องจับเชือกปีน และการนั่งพักทุก 50 เมตร จนในที่สุดก็มาถึงยอดหมื่นสองแล้ว แต่... หมอกบังโว้ย ก็ถ่ายรูปเล็กๆน้อยไว้ว่ามาถึงล่ะ เผื่อติดสินใจเดินกลับกัน ก็พากันนั่งพักเพื่อคิดว่าจะเอาไงจะไปต่อหรือพอแค่นี้ พี่เบิร์ดแกก็เลยบอก หมื่นห้าสวยกว่านี้นะ บวกกับพอได้พักเต็มที่ก็เลยตัดสินใจไปกันต่อ และก็เหมือนกันเดิมทุกๆ 50 เมตรพัก เวลาเหนื่อยจัดพี่เบิร์ดก็จะคอยตะโดนท้าพวกที่ข้างบน ห้าๆให้ได้สนุกกัน
(คลิปเดินไปบ่นไปเหนื่อยไป ห้าๆ)
ในระหว่างทางผมก็ถาม สารทุกข์สุกดิบของแต่ละคนไปเรื่อย โดยพี่เบิร์ดแกก็เล่าว่าแกทำงานเก็บเงินก้อนนึงแล้วก็ลาออกแล้วไปอยู่ใต้หลายปี เหตุผลที่ลาออกมาก็มาใช้ชีวิตมมาหาเดินป่า แกก็เดินมาเยอะในระดับนึงเดินแบบจริงจังเข้าป่า 14 วันอะไรแบบนี้ก็เคยเดินมา แกก็เล่าไปเรื่อยของแก ไปส่วนน้องผู้หญิงทั้งสองมาจากนครราชสีมา (โคราช) ทำงานเกี่ยวกับเทคนิคการแพทย์น่าจะเกี่ยวกับอุปกรณ์ น้องแอมเป็นครั้งแรกที่มาโดยน้องบีมเป็นคนชวนมา กลับกลายเป็นว่าคนถูกชวนเดินนำทุกคนเลย ห้าๆ
และก็ถามน้องชมลูกหาบว่าขึ้นมาบ่อยมั้ยน้องก็บอกเดือนล่ะครั้งแล้วแต่ทริป ลูกค้าบางคนก็ถ้าอยากขึ้นสามหมื่นก็พาไปได้ แต่ถ้าไม่จำเป็นก็ไม่ขึ้น เพราะไม่รู้จะขึ้นไปทำไม แล้วก็ถามเกี่ยวกับพื้นที่ต่างๆว่าคืออะไรบล าๆ ไม่ได้คลิปไว้ เหตุผลหลักๆคือ เหนื่อยโว้ยย หอบด้วย จากนั้นพากันเดินไปพักไปถ่ายรูปไป
จากนั้นก็ดันมาช่วงปลายๆหมื่นห้าแล้ว ทางเป็นหินชันเลยต้องระวังให้ดีพลาดมาคือจนนอกจากเหนื่อยแล้วต้องมีสติตลอด ก็เลยถามพี่เบิร์ดว่าที่นี่มีคนเคย ... มั้ย แกก็บอกไม่รู้เหมือนกัน แต่เคยมีเคสที่อื่นประมาณ เป็นทหารแล้วตัวใหญ่เสียชีวิต กว่าจะร่างลงมาได้ลำบากกันมากอะไรงี้ หลังจากทนปวดหัวหลายชั่วโมงก็มาถึงแล้วววว หมื่นห้า
พอถึงก็นั่งพักกันยกใหญ่พี่เบิร์ดก็ถึงจุดหมายแล้ว คือจุดประสงค์ของแกที่ขึ้นมาคือจะเอาพวกเครื่องดื่มโอวัลตินมาวางไว้ให้ลูกทริปเดิม พร้อมข้าวที่ห่อมาให้ลูกทริป ตอนแรกจะอยู่ที่หมื่นสอง มันน่าเกลียดไปเลยขึ้นมาหมื่นห้าแทน จากนั้นก็นั่งกินข้าวกัน ผมก็เอาข้าวที่ติดมาทานเป็นข้าวผัดที่โคตรอร่อยเลย ห้าๆ เพราะเหนื่อยจัด ระหว่างนีพี่เบิร์ดนั่งแซวคนที่ทยอยลงมาจกสามหมื่น ว่าขึ้นไปกันทำไมพี่ บลาๆ